แหล่ง ท่องเที่ยว ถ้าคุณกำลังหาที่พักผ่อนไม่ต้องแพคกระเป๋าขึ้นเครื่องไปเที่ยวไกลถึงเมืองนอก เราจะพาทุกคนไปเที่ยวแสนงาม ในเมืองไทย ที่ได้บรรยากาศสุดฟินไม่แพ้ไปเมืองนอก……
แหล่ง ท่องเที่ยว
1. หมู่บ้านมังกรสวรรค์ สุพรรณบุรี / คล้ายเมืองลี่เจียง มณฑลยูนนาน
“หมู่บ้านมังกรสวรรค์” จ.สุพรรณบุรีกันบ้าง ที่นี่เป็นอีกหนึ่ง แหล่ง ท่องเที่ยว ที่มีบรรยากาศเหมือนไปเมืองนอกเลยทีเดียวเพราะมีการจำลองสถาปัตยกรรม ชุมชน และบรรยากาศแบบเมือง “ลี่เจียง” ของประเทศจีน มาไว้ที่นี่ ซึ่งเมืองนี้ถือเป็นเมืองเก่ากว่า800 ปี ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก จึงรับประกันว่ามีความสวยงามมีเอกลักษณ์มากๆเลยล่ะ สำหรับหมู่บ้านมังกรสวรรค์ที่สุพรรณฯ จะอยู่ภายในอุทยานมังกรสวรรค์ ภายในหมู่บ้านได้ถูกออกแบบอย่างสวยงามลงตัวคล้ายเราได้เดินไปเที่ยวชมหมู่บ้านโบราณของจีนเลยจริงๆ มีทั้งร้านรวงต่างๆ ล้วนได้บรรยากาศเมืองจีนแท้ๆ มีทั้งร้านอาหารร้านขายของที่ระลึก และมุมถ่ายรูปเก๋ๆ เพียบเลย!
แหล่ง ท่องเที่ยว
- พิกัด : ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
- ดูบนแผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/xSAu995CHz2U4jsd7
- วันและเวลาเปิด- ปิด : ทุกวัน 10.00 – 18.00 น. เบอร์โทรศัพท์ : 035-526211 – 2
2. เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล มัลดีฟเมืองไทย
หากพูดถึงเกาะสวยๆ น้ำใสๆในประเทศไทย เชื่อว่าสถานที่นี่ จะเป็นที่เที่ยวในฝันของใครหลายๆคน อย่าง เกาะหลีเป๊ะจ.สตูล เกาะสวยสมญามัลดีฟส์เมืองไทย หนึ่งใน destination ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอยากมาเช็คอินกัน ไฮไลท์เด็ดคือปะการังเจ็ดสี หาดทรายสีขาวที่จับคู่มากับน้ำทะเลสีฟ้าที่ใสราวกระจก บวกกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวเลบนเกาะทำให้ใครหลายๆ คนก็ต่างตกหลุมรักที่นี่กันทั้งนั้น ซึ่งสำหรับหากใครอยากมาดำน้ำสัมผัสเสน่ห์โลกสีครามที่หลีเป๊ะแนะนำให้แวะมาช่วง เดือนธันวาคม – มีนาคม จะเป็นช่วงที่น้ำใส คลื่นสงบและปะการังมีสีสดสวยงาม
แหล่ง ท่องเที่ยว
- พิกัด : อ.เมือง จ.สตูล ในหมู่เกาะอาดัง – ราวี ต.เกาะสาหร่าย ห่างจากอาดังออกไปทางใต้ประมาณ 2 กม.
- ดูบนแผนที่Google Map : https://goo.gl/maps/yJmJeGEuK3Ba7ziPA
- เบอร์โทรศัพท์ : 02-5610777 , 02-5796666
แหล่ง ท่องเที่ยว
3.เกาะพระทอง จ.พังงา – ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย แอฟริกา ชัดๆ!!
แวะมากันที่สถานที่สวยๆ บ้านใกล้เรือนเคียง อยู่ติดๆกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี อย่าง เกาะพระทอง อำเภอคุระบุรีจังหวัดพังงา เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอัน 5 ของประเทศไทย ด้วยลักษณะบริเวณตอนกลางของตัวเกาะ ที่เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สีเหลืองทองจึงทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่าเป็น “ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย” นอกจากนี้ยังมีหนองน้ำเล็ก-ใหญ่ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดโดยเฉพาะฝูงกวาง ฝูงม้าที่หาดูได้ยาก รวมทั้งนกป่าและนกน้ำชนิดต่างๆ ซึ่งไฮไลท์ของเกาะพระทองอยู่ที่ช่วงเวลาพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า แสงสีส้มจากอาทิตย์กระทบลงทุ่งหญ้า ทำให้ทุ่งหญ้าเป็นสีทองอร่าม เสมือนคุณได้ท่องเที่ยวซาฟารีอยู่ในแอฟริกาเลยทีเดียว
โดยกิจกรรมไฮไลท์บนเกาะพระทองก็คือการนั่งรถเที่ยวทุ่งหญ้าสะวันนาขนาดใหญ่ที่มีป่าเสม็ดแคระขึ้นแทรกแซม ที่เรียกขานกันว่า “ทุ่งสะวันนาเกาะพระทอง” หรือบางคนก็เรียกว่า “ทุ่งหญ้าซาฟารี” หรือ “อัฟริกาเมืองไทย” ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นอันซีนไทยแลนด์
ช่วงเวลาที่เหมาะต่อการเที่ยวชมทุ่งหญ้าสะวันนาก็คือช่วงเย็น ช่วงเช้า ที่แสงแดดไม่ร้อนแรงเกินไป เมื่อแสงแดดอ่อน ๆ ส่องอาบไล้ ทุ่งหญ้าเหล่านี้จะกลายเป็นทุ่งหญ้าสีทองเหลืองอร่าม สร้างความน่าหลงใหลตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็นไม่น้อยเลย
สำหรับการมาเที่ยวชมทุ่งหญ้าสะวันนาในหน้าฝนจะเป็นสีเขียวขจี ส่วนหน้าแล้งโดยเฉพาะช่วง พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ทุ่งหญ้าจะมีสีทองดูสวยงามไม่น้อย
ขณะที่อีกหนึ่งจุดเด่นบนเกาะพระทองก็คือ การเที่ยวชมพระอาทิตย์ตกบนชายหาดฝั่งตะวันตกที่มีหลายจุดให้เลือกชม ไม่ว่าจะเป็น หาดทรายบริเวณที่เรียกว่า “สุดขอบฟ้า” ที่ตั้งชื่อตามรีสอร์ทดั้งเดิมของที่นี่หรือบริเวณ “อ่าวตาแดง” หรือ ที่หลายคนเรียกว่า“อ่าวตาฉุย”เพราะเรียกชื่อตามรีสอร์ท “ทับตาฉุย” ที่ตั้งอยู่หลังแนวหาดนี้
- พิกัด : ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
- ดูบนแผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/RWu977hMngTjE57J9
- เบอร์โทรศัพท์: 076-491378, 076-491582
- วันและเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 08.00 – 16.00 น
4. หาดหงส์ จ.อุบลราชธานี ซาฮาร่าเมืองไทย
เชื่อหรือไม่เมืองไทยมีทะเลทรายด้วย!!! เมื่อน้ำโขงลดลงเราจะสามารถมองเห็นทะเลทรายแห่งนี้ได้อย่างแจ่มชัด ทะเลทรายแห่งนี้มีชือว่าหาดหงส์ หนึ่งใน แหล่ง ท่องเที่ยว ยอดฮิตของจังหวัดอุบลราชธานีการเดินทางไปที่หาดหงส์นี้จะต้องมาขึ้นเรือกันที่หาดสลึง ซึ่งเป็นจุดจอดเรือให้บริการนักท่องเที่ยว เรือจะพาเราล่องไปตามแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเขตแดนธรรมชาติกั้นระหว่างฝั่งไทยและฝั่งลาว สองข้างฝั่งแม่น้ำยังคงเห็นผู้คนลงมาใช้ชีวิตตามวิถีกันอย่างน่ารัก นั่งเรือกันเพลินๆ ไม่นานก็มาถึงหาดหงส์ซึ่งบริเวณหาดหงส์นี้เป็นหาดทรายที่ผุดขึ้นมาริมแม่น้ำโขง ทรายที่นี่มีความละเอียดและมีสีเหลืองทองจนมองดูคล้ายทะเลทรายเลยทีเดียว หากหามุมถ่ายรุปกันดีๆ จะได้ภาพที่เหมือนอยู่กลางทะเลทรายเลยก็ว่าได้เดินเล่นหามุมถ่ายรูปเท่ๆ กันบนหาดหงส์แห่งนี้ พร้อมกับชิมวิวโค้งแม่น้ำโขง และน้ำตกที่ไหลลงมาสู่แม่น้ำโขงจากฝั่งลาว เป็นอีกหนึ่ง Unsenn Thailand ที่สักครั้งควรมาสัมผัสด้วยตัวเองจริงๆ
- พิกัด : บ้านโป่งเป้า ต.เหล่างาม อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี
- ดูบนแผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/23SeaeXGozWoA3Mp9
- วันและเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 08.00 – 16.00 น.
5. เจดีย์พุทธคยา จ.กาญจนบุรี
คล้าย เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย
เจดีย์พุทธคยา มีขนาดเล็กกว่าเจดีย์พุทธคยาองค์จริงที่อินเดีย มีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างยาว 42 เมตร สูง 59 เมตร ทางเข้าไปยังเจดีย์ มีรูปปั้นสิงห์ คู่ใหญ่ เป็นศิลปะมอญ ที่เชื่อว่าจะคอยปกป้องเจดีย์อยู่สองข้างบันไดทางเข้า ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสิงห์คู่ของประเทศพม่า ถัดไปด้านในบริเวณรอบองค์เจดีย์ทำเป็นลักษณะเหมือนระเบียงคด สามารถเดินได้โดยรอบ ทางเดินมีหลังคาคลุม และรอบๆ องค์เจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูป และเทวดาประจำวันเกิด พื้นผิวองค์เจดีย์มีลักษณะเป็นเหลี่ยมเว้าแหว่งเป็นช่อง โพรง คล้ายลายเรขาคณิต ภายในช่องหรือโพรง มีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ในพุทธลักษณะต่างๆ วางอยู่ ด้านยอดพระเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่หลวงพ่ออุตตมะอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เป็นกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวา สีขาวอมเหลืองใส ขนาดเท่าเม็ดข้าวสารจำนวน 2 องค์ บรรจุในผอบ 3 ชั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเสด็จพระราชดำเนินเพื่อประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นบรรจุ และประดิษฐานฉัตรทองคำแท้หนัก 400 บาทขึ้นบนยอดเจดีย์
- พิกัด : ซอยเจดีย์พุทธคยา ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
- ดูบนแผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/EPPDessubH7usjDt5
- วันและเวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 05.00 น. – 21.00 น. เบอร์โทรศัพท์ : 094-3380790
6. คลองสังเน่ห์ Little Amazon
ระวังอานาคอนด้า นะจ๊ะ!!
คลองสังเน่ห์ หรือ Little Amazon เป็นคลองสายสั้นๆ ที่มีต้นน้ำมาจาก เขาบางเต่าก่อนจะไปสิ้นสุดที่แม่น้ำตะกั่วป่า ที่นี่เป็นผืนป่าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ พืชพรรณแปลกๆที่ขึ้นอยู่ ตามริมฝั่งคลองสังเน่ห์ นั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหลด้วยความหลากหลายแบบนี้เอง นักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสผืนป่าแห่งนี้จึงตั้งฉายา ว่าเป็น Little Amazon นั่นเอง ไฮไลต์ของการล่องเรือชมความความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่คลองสังเน่ห์ คือการได้ชมต้นไทร โบราณ อายุนับร้อยปีที่แผ่กิ่งก้านสาขา อยู่ริมคลอง บางช่วงก็ห้อยระย้าตรงหน้าเหมือนม่านอุโมงค์ต้นไทรให้ล่องนั่งเรือผ่านไป ถือว่าเป็นภาพที่แปลกตาที่เรา สามารถหาชมได้เฉพาะที่คลองสังเน่ห์แห่งนี้เท่านั้น รวมถึงต้นไม้น้ำอย่างเช่น ต้นตีนเป็ดน้ำ ทั้งนี้ยังได้ ชม อีกหนึ่งไฮไลต์ของการล่องเรือ คือการได้ชมงู ทั้งงูเขียว งูปล้องทอง งูเหลือม ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะอันตรายเพราะเราล่องดูงูอยู่ห่างๆ และในช่วงกลางวันงูจะนอนหลับนิ่ง ขดกับต้นไม้เพื่อรอเวลาออกหากินในตอนกลางคืน นอกกากนี้ยังมีนกเงือก สัตว์สงวนหายาก ซึ่งจะมากินลูกไทร นกกระสาและนกอีกหลายชนิด ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งจะบินมาหาอาหารกิน หากมาในช่วงจังหวะที่ดีก็ มีโอกาสได้เห็นนกเหล่านั้นบินโฉบ ไปมาผ่าน ตรงหน้าอีกด้วย ด้วยความลึกลับแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์และความสวยงามทำให้ที่นี่เคย ใช้เป็นฉากถ่ายภาพยนตร์เรื่องแม่นาคพระโขนง ที่ใหม่ ดาวิกา และมาริโอ้ แสดงนำหากต้องการล่องเรือควรมาใน ช่วงเช้า เพราะอากาศยังไม่ร้อนได้แสงอ่อนของแดดมากระทบกับต้นไม้และต้นไทร ทั้งนี้ก่อนล่องเรือ ควรโทรมาสอบถามก่อนว่าน้ำขึ้นในช่วงเวลาไหน และควรขึ้นในระดับที่พอดีที่เราสามารถมองเห็นรากไทรได้ เพราะบางช่วงเวลา น้ำแห้ง ไม่สามารถล่องเรือได้หรือบางเวลาน้ำก็ขึ้นเยอะเกินไปจนบดบังความสวยงามของรากไทรที่อยู่ข้างล่าง ซึ่งตามที่ได้สอบถาม ชาวบ้าน น้ำจะเริ่มขึ้นมาประมาณ 9โมง -10 เช้า เป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะ
- พิกัด : 40/19 หมู่ที่ 9 ตำบล บางนายสี อำเภอ ตะกั่วป่า พังงา 82110
- ดูบนแผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/zD1Um3sP6HxM6Qfj7
- เบอร์โทรศัพท์ : 086-9531789, 076-424176
- วันและเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 09.00 – 17.00 น
7. เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ คล้ายเขาอาลีซาน ไต้หวัน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา สถานที่อันเต็มไปด้วยผืนป่าอันน่าพิศวง เมื่อเดินเข้าไปจะรู้สึกราวกับหลุดออกจากมิติเวลาข้ามฝั่งมายังโลกดึกดำบรรพ์ภายในมีสะพานไม้ให้เดินระยะทางเกือบ 300 เมตร ถึงจะเป็นเส้นทางสั้น ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความสวยงามปนกับความพิศวง ให้อารมณ์ป่าฝน อากาศเย็นสบาย เหล่าบรรดามอส ไล่ขึ้นตามขอบและราวจับของสะพาน เป็นจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจมากทีเดียว และหากมีฝนตกปรอย ๆ บอกเลยว่ายิ่งงดงามมากครับ
อ่างกา อยู่บริเวณยอดดอยอินทนนท์ ถ้าเริ่มต้นจากยอดดอยฯ ให้เดินมาทางป้ายสูงสุดแดนสยาม ผ่านสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เดินมาจนถึงจุดวัดอุณหภูมิ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาเส้นทางนี้สำรวจวางแนวและออกแบบเส้นทางเดินโดย คุณไมเคิล แมคมิลแลน วอลซ์ นักสัตววิทยาและอาสาสมัครชาวแคนาดาประจำอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นเส้นทางที่เดินง่าย ไม่อันตราย ทันทีที่เข้าไปในอ่างกาจะรู้สึกได้ถึงอากาศที่เย็นและชื้นกว่าบริเวณด้านนอก มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมจนแสงแดดส่องไม่ถึงพื้น ทางเดินช่วงแรกนั้นเป็นพื้นดินธรรมดา จากนั้นจะเป็นทางเดินไม้ยกระดับนักเดินทางไม่ควรเร่งรีบกับสถานที่แห่งนี้ จงซึมซับบรรยากาศ หยุดชมความงามเป็นระยะ ถ้าโชคดีจะได้เห็นนกนานาชนิด และหากหลังฝนตกจะได้เห็นหยดน้ำค้างบนยอดไม้หรือเถาวัลย์ เป็นภาพที่น่าจดจำสุดประทับใจ
- พิกัด : ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
- ดูบนแผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/tETLkZnoMEmyV4Z96
- เบอร์โทรศัพท์ : 053-286729
- วันและเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 05.00 -18.00 น.
8. เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี กุ้ยหลินเมืองไทย / คล้าย กุ้ยหลิน ประเทศจีน
มาถึงเขื่อนเชี่ยวหลานทั้งที ก็ต้องล่องเรือรอบทะเลสาบ ชมสถานที่ต่างๆ ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่สักหน่อย จุดแรกที่อยากแนะนำคือ เขาสามเกลอ จุดที่ถ้าใครพลาดไปนี่บอกเลยว่ามาเสียเที่ยวมาก เพราะที่นี่เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเขื่อนเชี่ยวหลานเลยก็ว่าได้ ด้วยลักษณะของเขาหินปูนที่ตั้งเรียงกันจนมีความคล้ายคลึงกับ กุ้ยหลิน สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองจีน จึงเป็นที่มาของฉายา “กุ้ยหลินเมืองไทย” ที่คนเขาเปรียบเปรยกันนั่นเอง สำหรับใครที่อยากรู้ว่าสัตว์ป่าเขาอยู่กันยังไง เขตรักษาสัตว์ป่าคลองแสง ต้นน้ำของเขื่อนรัชชประภา เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายากทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น หมูป่า กระทิง ช้าง หรือค่างแว่นถิ่นใต้ แต่ขอเตือนก่อนว่าพอเข้าไปที่เขตนี้ก็ควรรักษาความสงบ ไม่งั้นแก๊งพี่น้องสัตว์ป่าอาจตกใจกระเจิงกันได้
ต่อมาคือ ทะเลใน หรือ พื้นที่ในเขต 500 ไร่ นั่นเอง ที่มาของชื่อนี้คือ การที่น้ำไหลลอดผ่านใต้ถ้ำ ทำให้เกิดเป็นแหล่งน้ำมหึมาในพื้นที่นี้ ชาวบ้านก็เลยเรียกกันว่า ทะเลใน นั่นเองค่ะ การเดินทางเข้าไปในเขตทะเลในค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะต้องเดินลัดเลาะป่าเข้าไปถึง 3 กิโล! และต้องล่องแพที่ทางเขตรักษาสัตว์ป่าคลองแสงจัดไว้ให้ เพราะเขาไม่อนุญาตให้ล่องเรือหางยาว หรือเรือชนิดอื่นเข้าไป แต่ถึงจะลำบากแค่ไหน แค่เจอบรรยากาศอันเงียบสงบ และความสวยงามของ ทะเลในแล้ว ทุกคนคงจะหายเหนื่อยกันเป็นปลิดทิ้ง ใครที่อยากหนีจากความวุ่นวายในเมืองกรุง และมาสัมผัสกับธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ ที่นี่แหละ เหมาะเลย!
แหล่ง ท่องเที่ยว อีกจุดที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ถ้ำปะการัง ตั้งอยู่บริเวณของทะเลใน เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี ภายในถ้ำมืดสนิท มีหินงอก หินย้อยแตกหน่อเล็กๆ รูปร่างคล้ายปะการัง แต่แม้จะมืด ด้านในกลับสะอาดมาก ไม่ค่อยมีกลิ่นอับหรือกลิ่นมูลค้างคาวเหมือนถ้ำอื่น ซึ่งชาวบ้านได้เล่าว่า ถ้ำแห่งนี้เคยอยู่ใต้ท้องทะเลมาก่อน หินภายในถ้ำจึงมีลักษณะคล้ายปะการัง นอกจากนี้ยังมีคนเคยค้นพบฟอสซิลของสัตว์เซลล์เดียวดึกดำบรรพ์ อายุประมาณ 250 – 400 ล้านปีอีกด้วย
- พิกัด : ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี
- ดูบนแผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/bFimZ5gFcWZ2PZV78
- เบอร์โทร : 067-724-2560
- วันและเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 09.00 – 16.00 น.
9. ผาช่อ จ.เชียงใหม่ นี้มัน!! แกรนด์แคนยอน เมืองไทย
ผาช่อ ตั้งอยู่ใน อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ เขตของอุทยานแห่งชาติแม่วาง แหล่ง ท่องเที่ยว ที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดเองตามธรรมชาติเกิดจากการกัดเซาะของลมฝน หลายคนเชื่อกันว่าบริเวณแห่งนี้เคยเป็นทางเดินของแม่น้ำปิง สังเกตได้จากก้อนกรวดหิน อยู่ในเนื้อดินจำนวนมาก จนกระทั่งแม่น้ำปิงได้เปลี่ยนทาน้ำ บริเวณนี้ถูกดันตัวสุงขึ้น เป็นเนินเขาสูง ผ่ากาลเวลา จึงถูกกัดเซาะจนกลายเป็นหน้าผา ที่มีรูปร่างแปลกตา มีขนาดหน้าผ่าสูงราว 30 เมตร เป็นบริเวณกว้าง ที่นี้อากาศค่อนข้างโล่ง เหล่าผึ้ง รวมตัวกันมาทำรังผึ้งขนาดใหญ่ จำนวนมากอยู่ตามหน้าผา โดยไม่มีใครไปรบกวน อนุรักษ์ไว้ให้เป็นจุดท่องเที่ยว สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่เข้าไปเที่ยวชมธรรมชาติที่แปลกหลาย ๆ คนจึงได้บอกว่า คล้ายกับแกรนด์แคนยอนสะดวกใด ๆ เลย มีเพียงประติมากรรมธรรมชาติ เพียงอย่างเดียว มาเก็บเกี่ยวศิลปะจากธรรมชาติเท่านั้น ผาช่อจะเป็นการไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับเพียงอย่างเดียวเหมาะแก่การมาท่องเที่ยวถ่ายรูป
- พิกัด : อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วาง ตำบลสันติสุข อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่
- ดูบนแผนที่ Google : https://goo.gl/maps/yvRKvq2Bdh1McD2V9
- เบอร์โทรศัพท์ : 053-286729
- วันและเวลาเปิด – ปิด : 08.00 – 16.00 น.
10. หมู่บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน หมู่บ้านจีนยูนนานในเมืองไทย
แวะขึ้นมาเที่ยวภาคเหนือกันอีกสักที่ กับ “หมู่บ้านรักไทย”
จ.แม่ฮ่องสอน หมู่บ้านสุดสโลว์ไลฟ์ บริเวณชายแดนไทย-พม่า ที่นี่เป็นหมู่บ้านของชาวจีนยูนนานที่มีบรรยากาศเหมือนได้มาที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีนกันเลยล่ะ ด้วยความที่ชาวบ้านที่หมู่บ้านนี้ส่วนมากจะเป็นชาวจีนฮ่อที่ยังคงใช้ภาษา วัฒนธรรม และวิถีชีวิตในแบบดั้งเดิม จึงทำให้กลิ่นอายของหมู่บ้านรักไทยนั้นอบอวลไปด้วยเสน่ห์ในแบบจีนยูนนาน ซึ่งที่นี่จะมีทิวทัศน์โอบล้อบไปด้วยทิวเขาและพันธุ์ไม้ต่างๆ มีการเพาะปลูกชาพันธุ์ดีอย่างชาอู่หลง ไฮไลท์ของที่นี่คืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ในยามเช้าจะเห็นหมอกลอยอยู่เหนือผืนน้ำ ท่ามกลางวิวเขาและบ้านเรือนที่สวยงามมีเอกลักษณ์ ถือเป็นอีกจุดที่เราอยากให้เพื่อนๆ ลองมานั่งจิบชาอุ่นๆ ซึบซับบรรยากาศสวยๆ ถ่ายรูปเพลินๆอัพลงโซเชียลอวดเพื่อนๆ กันได้อย่างเต็มอิ่ม
- พิกัด : หมู่ที่ 6 ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
- ดูบนแผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/x1SLHLqyRDyR6JxKA
- เบอร์โทรศัพท์ : 086-1182067
- วันและเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 09.00 -18.00 น.